Ipad mini ส่งมาถึงแล้ว !!! พอดีพี่สาวผมนั้นอยากได้เลยสั่งมาจาก Apple Store รวมเวลาจัดส่งก็ร่วม 2 อาทิตย์ได้ครับ (ใช้เวลาพอสมควรเลย) หลังจากที่ผมเดินเข้าเดินออก istudio สีลมคอมเพล็กซ์ เป็นว่าเล่น (และเจอประสบการณ์กับพนักงานไม่ดีเท่าที่ควร (หลายรอบ)) ก็เลยตัดสินใจว่าสั่งจาก Apple Store ดีกว่าไม่เหนื่อยด้วย เรื่องของเรื่อง คือเมื่อหลายเดือนก่อนที่มีข่าวของ ipad mini พี่สาวผมนั้นมาถามว่า ipad mini จะออกไหม? เขาอยากได้เพราะว่ามันตอบโจทย์ของผู้หญิงตัวเล็กๆที่พก the new ipad แล้วแทนที่จะสะดวกสบายกลับมาลำบากซะงั้น ผมตอบอย่างมั่นใจกับพี่สาวผมว่า “ไม่มีหรอก mini น่ะ jobs เขาไม่ทำ” แต่จนแล้วจนรอดมันก็มาจนได้ และเช่นนั้นจึงต้องจัดให้เขาสัก 1 เครื่องครับ (ตังค์พี่เขาน่ะ 55+) มาเปิดกล่องกันเลยครับ พอดีตัวที่สั่งมาเป็นสี ดำนะครับ โดยส่วนตัวผมชอบ ipad สีดำอยู่แล้ว อ่ะมาเปิดกล่องกัน พัสดุแพ็กมาอย่างดีครับ โดยขนส่งมาทาง DHL
ปล. ในรูปผมไปติดกันรอยมาเรียบร้อยแล้วครับแต่ใส่กล่องถ่ายให้ดูอีกทีว่าเป็นอย่างไร หุหุ
จากภาพด้านบน ถ้าใครเคยใช้ iphone ipad รุ่นก่อนหน้านี้ก็จะคุ้นกันดีครับ ไม่แตกต่างอะไรจากก่อนๆมาก แค่เปลี่ยนขนาดของกล่องครับ
นำตัวเครื่องออกมา ด้านในก็จะมีสาย connector และก็ Power Adapter ครับ
Power Adapter Input 100-240v ครับ
lightning connector เป็นสายแบบใหม่ที่ ทาง apple ออกมา และจะเหมือนกับ ipad4/iphone 5 ครับ
ต่อไปคือหน้าจอครับ ขนาดของหน้าจอเท่ากับ 7.9 นิ้ว ความละเอียด 1024×768 พิกเซล (162ppi) เป็น spec เดียวกับ ipad 2 ครับ อื่ม….
ด้านหลังเครื่องครับ ก็เรียบๆง่ายๆ ส่วนบนซ้ายก็จะมีในส่วนของกล้องครับ มีความละเอียด 5 ล้านพิกเซล วัสุดด้านหลังเครื่องนั้นมีคนถามว่าเหมือน iphone 5 หรือเปล่า อันนี้ผมก็ไม่ทราบรายละเอียดในเชิงลึกนะครับ (แต่เอาความรู้สักของผมที่ได้ลองจับดีกว่า วัสดุคล้ายๆนะครับ แต่ผมคิดว่า ipadmini ดีกว่านิดหน่อย) แต่ผมบอกไว้ได้เลยนะครับ ว่าเป็นรอยง่าย คนที่รู้จักของผมเอา SmartCover แท้ๆนี่แหละ แปไว้ โดนกัดซะงั้น เศร้ากันไปครับ โดยส่วนตัวผมถ้าใครถามผมจะบอกให้ไปหา กันรอยด้านหลังของ 3 M มาแปะครับ แต่ใครมีวิธีดูและแบบไหน มาแชร์กันได้ครับผม 🙂
ด้านล่างเครื่อง รู connector ครับ
ขวามือของเครื่อง ปุ่มปิดเสียง กับ ปุ่มเพิ่มลดเสียงครับ
ด้านบนเครื่อง ปุ่ม Power และ ช่องเสียง หูฟัง 3.5 ครับ
Firmware ที่ผมได้มานั้นเป็น เวอร์ชั่น 6.0.1 นะครับ เนื้อที่ให้ใช้งานก็จะเหลือประมาณ 13.7 G ครับ
ทดสอบพิมพ์ภาษาไทยครับ ถนัดมือดี แต่อาจจะเป็นเพราะว่าผมไม่ค่อยได้พิมพ์คีย์บอร์ด ios มานานเลยทำให้พิมพ์ช้านิดหน่อย แต่ผมคิดว่าในแนวตั้งพิมพ์ได้สะดวกมากๆครับ ถ้าใช้นิ้วโป้ง สองนิ้วพิมพ์ อันนี้ผมคิดว่าแล้วแต่ความเคยชินครับ
//ภาพ โปรแกรมที่เปิดผ่าน ipad mini ครับ
จับถ่ายภาพก็ไม่หนักมือครับ (ก็ยังดีกว่าถือ the new ipad ถ่ายเนอะ)
ทั้งสองภาพด้านบนเป็นภาพตัวอย่าง ที่ถ่ายมาจากกล้อง ipad mini (ในเวลากลางคืน เปิดไฟอ่อนๆ) น้อยส เยอะอยู่ครับ
มาแบ Spec ดูกันครับ
CPU: A5 Dual-core 1GHz
GPU: PowerVR SGX543MP2
RAM: 512MB
Internal Storage: 16GB/32GB/64GB
Display: IPS 7.9 นิ้ว 1024×768 พิกเซล (162ppi)
Camera: ด้านหน้า 1.2 ล้านพิกเซล ด้านหลัง iSight 5 ล้านพิกเซล
Connectivity
CDMA EV-DO Rev. A and Rev. B (800/1900/2100 MHz)
2G: GSM/EDGE (850/900/1800/1900 MHz)
3G: UMTS/HSPA+/DC-HSDPA (850/900/1900/2100 MHz)
LTE (Bands 1, 3, 5, 13, 25)
Bluetooth: 4.0 A2DP + EDR
WiFi: 802.11a/b/g/n Dual-band
Battery: 4,400mAh
Dimensions: 200 ม.ม. x 134.7 ม.ม. x 7.2 ม.ม.
Weight: 312 กรัม
โดยจะเห็น spec จากด้านบนได้ว่า ส่วนใหญ่จะคล้ายกับ ipad 2 มากๆนะครับ ที่จะต่างหลักๆก็คือขนาดของจอครับ ที่ ipadmini ทำได้ดีกว่า (ชัดเจนกว่า) เพราะ ? นั้นก็คือเพราะว่า ipad mini มีขนาดจอเล็กกว่าแต่ความละเอียดเท่ากับ ipad 2 เลยทำให้ภาพออกมาดูชัดเจนกว่าครับ อีกเรื่องก็คือน้ำหนัก (แน่นอนสิเพราะเล็กกว่าตั้งเยอะ ) และสุดท้ายคือ battery ครับที่ให้มาน้อยกว่า (แต่เท่าที่ผมทดสอบ ใช้งานได้ยาวนานมากครับ)
มาสรุป กันนะครับ (อิงจากความคิดผมเน้อออ)
สิ่งที่ชอบ
– น้ำหนักเบาจ้า สามารถถือได้มือเดียวอ่านหนังสือได้ เจ๋งสุดๆไม่ต้องเล่นกล้ามกับ the new ipad แล้วว
– จอไม่แย่เท่าที่คิดไว้ แสดงผลได้ดีครับ ชัดเจน
– Battery ดีเยี่ยม Style IOS วันนี้วันที่ 2 แล้วที่ได้เครื่องมา ตอนได้เครื่อง มี Batt 75% ณ ปัจจุบันเหลือ 50% ครับ โดยเฉลียผมทดสอบเล่นโปรแกรม ประมาณ สามชั่วโมงครับ และส่วนใหญ่เปิดทิ้งไว้ wifi เปิดไว้ตลอดครับ ผมคิดว่าถ้าผมใช้คงหลายวันเลยนะครับกว่าจะชาร์ตสักที
– wifi จับสัญญานได้ดี /
– พกพาสะดวกครับ แน่นอนไม่ต้องพกกระดานชนวนอีกต่อไป
– กล้อง ok นะผมว่า ได้ยินแว่วๆว่าใช้ชิฟกล้องตัวเดียวกับ iphone 4 ผมว่าแค่นั้นมันเพียงพอสำหรับผมครับ
สิ่งที่ขัดใจ
– วัสดุด้านหลังเหมือนจะเป็นรอยง่าย (ต้องไปหาอุปกรณ์มาติดเพิ่มอีก ) เสียตังค์ทั้งน้าน
– เล่นเกมส์หนักๆ ก็จะหน่วงๆ นะจ้าาา ตามนั้นเลยครับ ใครคิดจะซื้อไปเล่นเกมส์หนักๆ คือให้ถี่ถ้วนครับ
สรุปสำหรับผมนะครับ ipad mini เหมาะสมสำหรับคนที่อยากจะพก ipad ไปทุกที่ทุกเวลานะครับ ส่วน spec ก็ไม่ได้ขี้เหร่มากขนาดนั้น และเทียบราคาแล้วก็น่าจะทำให้หลายๆท่านตัดสินใจได้ไม่ยากนะครับ ถ้าเปรียบเทียบกับรุ่นอื่นๆในตลาดแล้ว